มองการณ์ไกลส่งเสริมโลจิสติกส์อาเซียน ขบ.เล็งเปิดท่าขนส่งสินค้าชายแดน

มองการณ์ไกลส่งเสริมโลจิสติกส์อาเซียน ขบ.เล็งเปิดท่าขนส่งสินค้าชายแดน

การจำหน่ายสินค้าด้วยการกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยิ่งสามารถจัดการขยายพื้นที่เศรษฐกิจทางการค้าได้มากเท่าไร ก็ยิ่งมีผลดีต่อกำไรหรือเงินหมุนเวียนมากขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่ทางฝั่งของผู้ประกอบการแต่จะเป็นการช่วยฟื้นฟูรายได้ของทั้งภาครัฐ เอกชน และประเทศชาติ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ดีของการเริ่มทำการกระจายเปลี่ยนถ่ายสินค้าในเขตพื้นที่ชายแดนของไทยอย่างยิ่ง เพราะในส่วนของเขตพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งของการแลกเปลี่ยน และขนส่งสินค้าที่คึกคักน่าจับตามองเพราะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

คำว่าเปิดอาเซียน แน่นอนว่าแต่ละประเทศที่เข้าร่วมนี้ ย่อมต่างพากันมองหาลู่ทางของการทำเศรษฐกิจให้ประเทศตนเองนั้นดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกันมีการลงทุนแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจกับหลายประเทศในอาเซียน ร่วมถึงเรื่องของสินค้าที่ไทยเองมีสินค้าคุณภาพ และสามารถตีตลาดเป็นที่นิยมให้กับประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งชายแดนอยู่หลายอย่าง หากมีสถานที่หรือจุดกระจายเปลี่ยนถ่ายการขนส่งสินค้าที่เป็นระบบระเบียบได้มาตรฐาน ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมในจุดนี้มากขึ้นไปอีก โดย ขบ. หรือกรมการขนส่งทางบกก็ได้มีแผนพัฒนาขนส่งสินค้า 19 แห่ง ประกอบด้วย 2 ระยะ จำนวน 2 โครงการด้วยกัน ระยะที่  1 มีแผนอยู่ใน จ.นราธิวาส สงขลา เชียงราย ตาก กาญจนบุรี สระแก้ว มุกดาหาร ตราด หนองคาย กำหนดในระยะเวลาดำเนินการช่วง 2561-2564 ระยะที่ 2 มีแผนอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี สุราษฏร์ธานี พิษณุโลก นครสวรรค์ เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น ระยะเวลาในการดำเนินการช่วง 2562-2565

ซึ่งขณะนี้ ขบ.ก็เล็งการเปิดประมูลแบบพีพีพี คือร่วมทุนกันระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อเปิดประมูลสถานีขนส่งสินค้าบริเวณแนวชายแดน 2 แห่งด้วยกัน คือ  จังหวัดเชียงราย (โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายการขนส่งสินค้าเชียงของ) และที่จังหวัดนครพนม (โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน) โดยรวมมูลค่าของทั้ง 2 โครงการแล้วอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ในพื้นที่เชียงราย 2,300 ล้านบาท และในพื้นที่นครพนม 1.200 ล้านบาท โครงการทั้งสองแห่งดังกล่าวนี้นอกจากจะได้รับความสนใจ และอยากร่วมลงทุนด้วยจากภาคผู้ประกอบการเอกชนหลายรายแล้ว ยังได้รับความสนใจจากภาครัฐอย่าง กทท.หรือกรมการท่าเรือแห่งประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพราะมีความต้องการพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของศูนย์ขนส่งสินค้าทางบก โดยในตอนนี้ความคืบหน้าของโครงการทาง จ.นครพนม อยู่ระหว่างทบทวนความเหมาะสมรวมถึงความคุ้มค่าของผลตอบแทน และจะได้เปิดประมูลช่วงปลายเดือนตุลาคม 2560 ส่วนโครงการทาง จ.เชียงราย ก็อยู่ในขั้นตอนเสนอรายละเอียดต่อกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561

หากแผนเปิดประมูลโครงการทั้ง  2 แห่งนี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ก็นับว่าเป็นก้าวสำคัญต่อระบบโลจิสติกส์ของไทยเราอย่างมาก ได้ทำให้การขนส่งสินค้ามีมากขึ้น การกระจายและจำหน่ายสินค้าก็มีมากขึ้น รายได้ของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ก็มีมากขึ้นตามกันมาด้วยเช่นกัน

 

Share This Article:

Be the first to comment “มองการณ์ไกลส่งเสริมโลจิสติกส์อาเซียน ขบ.เล็งเปิดท่าขนส่งสินค้าชายแดน”